แสงเหนือถือได้ว่าปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่น่าอัศจรรย์ ที่สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับเหล่านักเดินทางมาอย่างมากมาย เป็นความสวยงามที่ใครหลายๆ คนต้องออกมาตามล่าเพื่อที่จะได้เห็นกับตาสักครั้ง เพื่อชมความงดงามของแสงสีบนท้องฟ้า ในเวลากลางคืนที่มองดูคล้ายกับม่าน และมีการเปลี่ยนแปลงรูปร่างอย่างรวดเร็วราวกับว่าแสงนั้นกำลังเต้นระบำอยู่ ปรากฏการณ์นี้เราเรียกกันว่า “แสงเหนือ” หรือ “ออโรรา” นั่นเองค่ะ
แสงเหนือถือได้ว่าปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่น่าอัศจรรย์ ที่สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับเหล่านักเดินทางมาอย่างมากมาย เป็นความสวยงามที่ใครหลายๆ คนต้องออกมาตามล่าเพื่อที่จะได้เห็นกับตาสักครั้ง เพื่อชมความงดงามของแสงสีบนท้องฟ้า ในเวลากลางคืนที่มองดูคล้ายกับม่าน และมีการเปลี่ยนแปลงรูปร่างอย่างรวดเร็วราวกับว่าแสงนั้นกำลังเต้นระบำอยู่ ปรากฏการณ์นี้เราเรียกกันว่า “แสงเหนือ” หรือ “ออโรรา” นั่นเองค่ะ
แสงเหนือ - แสงใต้ เกิดขึ้นได้อย่างไร?
ทำไมต้องเป็นขั้วโลก?
สนามแม่เหล็กโลกมีรูปร่างคล้ายแท่งแม่เหล็ก โดยขั้วเหนือและขั้วใต้ของสนามแม่เหล็กจะอยู่ใกล้กับขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้ตามลำดับ การรวมตัวของอนุภาค ที่มีประจุไฟฟ้าจากลมสุริยะจะถูกสนามแม่เหล็กโลกดึงดูดให้เคลื่อนที่ไปตามเส้นสนามแม่เหล็ก และรวมตัวกันบริเวณขั้วโลกมากที่สุด ทำให้เกิดแสงออโรราที่สวยงาม
แสงเหนือและแสงใต้แตกต่างกันไหม?
โดยพื้นฐานแล้วแสงเหนือและแสงใต้เป็นปรากฏการณ์เดียวกัน เพียงแต่เกิดขึ้นคนละซีกโลก แม้ว่าโดยรวมแล้วแสงเหนือและแสงใต้จะมีลักษณะคล้ายคลึงกัน แต่รายละเอียดปลีกย่อย เช่น รูปร่าง สีสัน ความถี่ในการเกิด อาจมีความแตกต่างกันบ้าง เนื่องจากสภาพแวดล้อมและสนามแม่เหล็กในแต่ละบริเวณไม่เหมือนกัน
วันนี้น้องอิมจะมาแนะนำ 12 ประเทศ ล่าแสงเหนือ อยากสัมผัสประสบการณ์ชมแสงเหนือแบบใกล้ชิด จะมีประเทศไหนกันบ้าง มาดูกันเล้ยยย ~
เริ่มกันที่ทวีปเอเชีย
เมืองมูร์มันสค์ ในประเทศรัสเซีย เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสกับปรากฏการณ์ทางธรรมชาติอันน่าทึ่งอย่าง เดินทางง่ายแถมยังไม่ต้องใช้วีซ่าอีกด้วย
แสงเหนือเมืองมูร์มันสค์ตั้งอยู่เหนือวงกลมอาร์กติก ทำให้มีโอกาสเห็นแสงเหนือได้สูงมาก
ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชมแสงเหนือ ช่วงเดือนกันยายน - เมษายน เป็นช่วงที่เหมาะสำหรับการชมแสงเหนือ โดยเฉพาะเดือนมกราคมถึงมีนาคม ซึ่งเป็นช่วงกลางคืนที่ยาวนาน
กิจกรรมอื่นๆ นอกจากชมแสงเหนือแล้ว คุณยังสามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมอื่นๆ ได้อีกมากมาย เช่น นั่งรถเลื่อนหิมะ ลากโดยสุนัขฮัสกี้ หรือกวางเรนเดียร์ หรือจะไปเยี่ยมชมหมู่บ้านชาวซามิ ซึ่งเป็นชนเผ่าดั้งเดิมของภูมิภาคอาร์กติก
▶️ ประเทศไอซ์แลนด์ : เมืองเรคยาวิก, ทะเลสาบมิวาทน์
▶️ ประเทศกรีนแลนด์ : เมืองอิลูลิสซัต, เมืองคุลูซุก, เมืองนูก
▶️ ประเทศฟินแลนด์ : เมืองโรวาเนียมี, เมืองอิวาลโล
▶️ ประเทศสกอตแลนด์ : เกาะเช็ตแลนด์, เกาะออร์คเนย์
▶️ ประเทศสวีเดน : อุทยานแห่งชาติอาบิสโก, เมืองกิรูน่า
▶️ ประเทศเดนมาร์ก : หมู่เกาะแฟโร
.
ทวีปอเมริกาเหนือ
▶️ ประเทศแคนาดา : เมืองเยลโลว์ไนฟ์, เมืองไวท์ฮอร์ส
▶️ ประเทศสหรัฐอเมริกา : เมืองอลาสกา (แฟร์แบงค์ส, อังเคอเรจ)
.
ปิดท้ายด้วยทวีปออสเตเลีย
▶️ ประเทศออสเตรเลีย : เมืองควีนส์ทาวน์, ทะเลสาบเทคาโป
▶️ ประเทศนิวซีแลนด์ : เมืองควีนส์ทาวน์, ทะเลสาบเทคาโป
การเกิดขึ้นของแสงเหนือขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและกิจกรรมของดวงอาทิตย์ ดังนั้นจึงไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะได้เห็นแสงเหนือทุกครั้งที่ไป
และนี่คือ 12 ประเทศ ในการล่าแสงเหนือ ที่น้องอิมแนะนำให้กับผู้อ่านในวันนี้ หากใครวางแผนที่จะไปเปิดประสบการณ์สักครั้งในชีวิตแล้วล่ะก็ อันดับแรกวางแผนการเดินทาง จองที่พัก เช็คสภาพอากาศ และเตรียมเสื้อผ้ากันหนาว เพราะในช่วงฤดูหนาวนั้น เวลากลางคืนจะยาวนานกว่าช่วงกลางวัน ซึ่งเพิ่มโอกาสในการมองเห็นแสงเหนือได้มากยิ่งขึ้นนั่นเองค่ะ หรือหากใครที่ไม่อยากวุ่นวายในการจัดเตรียมการเดินทางเอง เราก็มีทัวร์บริการให้กับทุกๆ ท่าน บอกเลยว่าบริการครบครันตลอดการเดินทาง ไม่ว่าจะ ท่องเที่ยว ตั๋วเครื่องบิน โรงแรมที่พัก พร้อมทั้งเช็คสภาพอากาศและพยากรณ์แสงเหนือให้กับทุกท่านอย่างเรียบร้อยเลยทีเดียวค่ะ
#แสงเหนือ #ออโรร่า #ท่องเที่ยว #ธรรมชาติ #รัสเซีย #นอร์เวย์ #ไอซ์แลนด์ #กรีนแลนด์ #ฟินแลนด์ #สกอตแลนด์ #สวีเดน #แคนาดา #สหรัฐอเมริกา #อิมเมจิ้นทัวร์แอนด์ทราเวลเซอร์วิส #imaginetourandtravelservice